1. แมงกะพรุน (Jellyfish)
แมงกะพรุน ชื่อนี้ค่อนข้างจะคุ้นเคยสำหรับนักท่องเที่ยวเพราะหลายคนเคยมีประสบการณ์กับพิษของแมงกะพรุนมาบ้างแล้ว แมงกะพรุนเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งมีลักษณะตัวใสนิ่มคล้ายๆ วุ้น บางชนิดมีสีขุ่น แมงกะพรุนมีพิษทำให้คันปวดแสบปวดร้อน แต่บางชนิดก็ใส่เย็นตาโฟทานอร่อย
การป้องกัน เวลาเล่นน้ำให้สังเกตรอบๆ ว่ามีแมงกะพรุนอยู่แถวนั้นหรือไม่ ถ้ามีก็ให้หลีกไปเล่นบริเวณอื่น เวลาดำน้ำดูปะการังผิวน้ำให้คอยสังเกตดูด้วยว่ามีแมงกะพรุนลอยมาหาเราหรือไม่ ถ้ามีก็ให้หลบเสีย การดำน้ำลึกควรสังเกตและหลบเลี่ยง อย่างตัวนี้ผมเจอที่หน้าเกาะค้างคาว ว่ายวืบๆ ผ่านไปไม่ไกลเท่าไรจึงถ่ายมาให้ชมกัน
การรักษา อย่าเกาเพราะการเกาไม่ใช่การแก้ปัญหา ยิ่งเกายิ่งยับเยิน ใจเย็นๆ ให้ใช้ใบผักบุ้งทะเลที่ขึ้นอยู่บริเวณชายหาดขยำจนของน้ำเขียวๆ ในใบออกมาแล้วทาบริเวณที่โดนแมงกะพรุน ทาทิ้งไว้สักพักอาการก็จะบรรเทาลง หลังจากนั้นก็ลงเล่นน้ำต่อได้ หรือจะใช้น้ำส้มสายชูราดในบริเวณที่โดนแมงกะพรุนก็ได้
2. เม่นทะเล (Sea urchin)
เม่นทะเล มักจะอาศัยอยู่บริเวณพื้นทะเลตามแนวปะการังและเกาะตามก้อนหินในน้ำ ผู้ที่จะไปสัมผัสกับมันเข้าคือพวกที่เหยียบลงไปที่พื้น ลักษณะเม่นทะเลดังในภาพ มีลักษณะกลมมีหนามยาวรอบตัว ที่หนามจะมีสารพิษบางอย่างทำให้ผู้ที่ตำมีอาการเจ็บปวด การว่ายน้ำเล่นบริเวณผิวน้ำหรือการดำผิวน้ำจะไม่โดนเม่นทะเลตำเพราะเม่นทะเลอยู่ที่พื้น ถ้าหากเราเหยียบลงไปที่พื้นเราอาจจะเหยียบปะการังพังแล้วยังมีโอกาสโดนเม่นทะเลตำเอาได้
วิธีการหลีกเลี่ยงคืออย่าลอยตัวเข้าไปในเขตน้ำตื้นเพราะอาจจะโดนแม่นทะเลตำ อย่าเหยียบบนพื้น เพราะนอกจากจะโดนเม่นตำแล้วยังอาจจะทำให้ปะการังเสียหายด้วย
วิธีการรักษา ให้ใช้ก้อนหินหรือตะกั่วที่ใช้ดำน้ำทุบบริเวณที่โดนตำให้หนามเม่นแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลังจากนั้นรอเวลา เวลาจะช่วยรักษาให้หายเจ็บได้ โดนตำแล้วต้องทน
3. ดอกไม้ทะเล (Sea Anemone)
ดอกไม้ทะเล สวยงามแต่มีพิษ ดอกไม้ทะเลจัดเป็นสัตว์อยู่ในกลุ่มย่อยเดียวกับปะการังแข็ง แต่พวกนี้ไม่สร้างโครงหินปูน บริเวณหนวดมีเซลล์เข็มพิษถ้าเราไปสัมผัสก็จะโดนเข็มพิษทิ่มแทงพิษจะทำให้ปวดแสบปวดร้อน ความรุนแรงขึ้นอยู่กับชนิดของดอกไม้ทะเล จู่ๆ คนเราจะไปจับดอกไม้ทะเลเล่นก็คงไม่ใช่ แต่ที่อาจจะไปโดนเข็มพิษของมันเนื่องจากไปไล่จัลปลาการ์ตูนในการดอกไม้ทะเล ทั้งนี้เพราะปลาการ์ตูนกับกอดอกไม้ทะเลพบเห็นได้แม้ในระดับน้ำตื้นเพียงแค่เข่าของเรา ดังนั้นจึงอย่าไปไล่จับปลา หรือแย่ปลาการ์ตูน
การป้องกัน ไม่จับเล่นเพราะเห็นว่าสวยงาม ดูแต่ตาจะปลอดภัย
การรักษา ใช้น้ำส้มสายชูราดบริเวณที่โดนพิษ
4. ปลาสิงโต (Common lionfish)
ปลาสิงโต อาศัยอยู่บริเวณแนวปะการัง พบได้แม้ในระดับน้ำตื้น อย่างตัวนี้พบที่ระดับน้ำประมาณ 1. 5 เมตร เป็นปลาที่มีรูปร่างและสีสันสวยงามมาก ปลาชนิดนี้จะว่ายช้ามากเพราะว่าเขาไม่กลัวอะไรเนื่องจากมีพิษรอบตัว เนื่องจากเป็นปลาสวยและเชื่องช้าจึงอาจจะมีใครรู้เท่าไม่ถึงกาลไปไล่จับมันเล่นก็จะถูกเข็มพิษทิ่มแทง บาดแผลที่โดนเข็มพิษจะปวดมากเหมือนโดนปลาดุกตำ
การป้องกัน เห็นปลาสวยๆ อย่าเข้าใกล้หรือไปจับเล่น เท่านั้นเอง
การรักษา ไม่รู้รักษายังไง แต่ควรทานยาแก้ปวดเพื่อให้บรรเทาอาการปวด แล้วปล่อยให้เวลาเป็นตัวรักษา
5. แตนทะเล (sea wasp)
แตนทะเล เป็นสัตว์ขนาดเล็กล่องลอยอยู่ในน้ำ บางครั้งก็มีบางครั้งก็ไม่มี ส่วนใหญ่มักจะพบในการลงดำน้ำในช่วงเช้ามากกว่าการลงดำในช่วงบ่าย ลักษณะเป็นสัตว์ทะเลขนาดเล็กจิ๋ว โปรดสังเกตจากในภาพ เห็นหมั๊ยครับ แตนทะเลจัดอยู่ในจำพวกแพงตอนขนาดเล็กมักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ มองดูคล้ายว่าในน้ำมีตะกอน สิ่งที่เราสังเกตได้คือว่าน้ำจะขุ่นกว่าปกติเหมือนมีเศษตะกอนลอยอยู่ในน้ำ ซึ่งเราก็จะแยกไม่ออกว่านั่นคือตะกอนหรือแตนทะเล เราจะรู้ก็ต่อเมื่อโดนมันต่อย อาการเมื่อโดนแตนทะเลต่อยจะรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ เหมือนโดนเข็มขนาดเล็กจิ๊ม แต่เจ็บไม่เท่าไรพอทนได้
การป้องกัน ไม่มีวิธีป้องกัน หากลงน้ำแล้วก็ต่อยถ้าทนได้ก็ดำต่อไป ถ้าทนไม่ไหวก็ขึ้นมารอบนเรือ ที่เขียนมาก็เพื่อจะบอกให้รู้ว่าเวลาลงดำน้ำแล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ นั่นน่ะกำลังโดนแตนทะเลต่อย เดี๋ยวจะสงสัยว่าเป็นอะไรทำไมถึงเจ็บ
การรักษา ส่วนใหญ่ไม่แพ้ เมื่อโดนต่อยก็จะรู้สึกเจ็บเฉยๆ แต่สำหรับคนที่แพ้จะมีอาการเป็นจุดแดงและบวมเล็กน้อย แก้ไขด้วยการทานยาแก้แพ้ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้มากจะต้องไปพบแพทย์ฉีดยาสักเข็มก็หาย ที่สำคัญเมื่อโดนแตนต่อยแล้วเกิดตุ่มแดงและคันห้ามเกา ปล่อยไว้อย่างนั้นถึงแม้จะคันก็ทนเอาหน่อย เมื่อทานยาหรือฉีดยาแล้วแผลยุบหายไปก็จะไม่มีแผลเป็น ไม่เสียโฉม
6. หอยมือเสือ (Giant clam)
หอยมือเสือ เป็นสิ่งที่สวยงามในทะเล เนื้อเยื่อบริเวณปากมีสีสันสวยงามเหมือนดอกไม้ สีม่วง สีเขียว สีฟ้า สารพัดสี เราสามารถพบหอยมือเสือได้แม้ในระดับน้ำตื้นๆ อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นก็คือการเหยียบเข้าไปในปากจะโดยฝาหอยหนีบ แต่โอกาสที่จะเกิดขึ้นเป็นไปได้ยากมากเพราะหอยจะคอยระวังตัว หากเราเข้าใกล้เขาก็จะหุบปาก อย่าไปแย่เล่น หรือเผลอไปเหยียบก็ปลอดภัยแล้ว
7. ปะการัง (Corals)
ปะการัง พิษของปะการังมีสองแบบ คือ
1. พิษจากเมือกของปะการัง ปะการังหลายชนิดมีเมือกที่เป็นพิษ เมื่อสัมผัสแล้วจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนไปหลายวัน บางชนิดมีพิษที่รุนแรงเช่นปะการังไฟ เมื่อโดนแล้วปวดแสบปวดร้อนและเป็นรอยไหม้เป็นแผลเป็น ดังนั้นเมื่อดำน้ำในเขตน้ำตื้นจงหลีกเลี่ยงที่จะไปสัมผัสกับปะการังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปะการังชนิดใดๆ ก็ตาม เพราะหลายชนิดที่มีพิษ ยากที่จะจดจำ จำง่ายๆ ว่าอย่าไปสัมผัสไม่ว่าชนิดใดก็ตาม
2. พิษจากการบาดเจ็บจากการขีดข่วนหรือโดนคลื่นซัดเข้าไปกระแทกเข้ากับปะการัง ในช่วงที่น้ำลงจะทำให้แนวปะการังอยู่ในระดับน้ำตื้นมากๆ บางจุดปะการังโผล่พ้นน้ำในช่วงที่น้ำลงต่ำสุด อาจทำให้การดำน้ำในเขตปะการังน้ำตื้นเกิดอันตรายเมื่อเราเซไปกระแทกกับปะการัง หรือโดนคลื่นชัดเข้าไปกระแทกกับปะการัง ผิวของปะการังมักจะมีผิวหยาบขุรขระและแหลมคม หากไปกระแทกเข้าก็จะเกิดแผลในบริการที่กระแทก นักท่องเที่ยวก็เสียโฉม แนวปะการังก็อาจจะหักเสียหาย สรุปว่าเสียกันทั้งสองฝ่าย แต่ปะการังมันไม่เจ็บแต่คนซิเจ็บ ถ้ากลัวเจ็บก็ต้องระมัดระวังโดยการไม่ดำเข้าไปในเขตน้ำตื้นจนเกินไป
8. หอยนางรม (Oyster)
หอยนางรม เป็นพิษภัยที่คนมองข้าม หอยนางรมจะเกาะอยู่ตามโขดหินในระดับผิวน้ำตั้งแต่ระดับน้ำสูงจนถึงระดับน้ำต่ำ ในการครั้งในที่ดำน้ำนักท่องเที่ยวอาจจะพยายามยืนบนก้อนหินใต้น้ำที่มองไม่เห็น อาจจะเป็นในลักษณะของการเหยียบแบบสะเปะสะปะ หากก้อนหินมีหอยนางรมเกาะอยู่ก็จะโดนบาดเหวอะหวะ บางท่านหัวใสใส่รองเท้าขณะดำน้ำ แต่ไม่ใช่ว่าจะรอดเพราะอันตรายอีกอย่างคือการที่โดนคลื่นซัดเข้าไปกระแทกกับโขดหินที่เต็มไปด้วยหอยนางรม ปัญหานี้เกิดจากการก้มหน้าดำน้ำแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ หมายถึงมองดูแต่ที่พื้นอย่างเดียวจนกระทั่งโดนคลื่นซัดเข้าใกล้โขดหินแล้วก็ยังไม่รู้เรื่อง ถ้าโดนคลื่นกระแทกไปโดนกับโขดหินที่มีหอยนางรมล่ะก็รับรองได้ว่าบาดเจ็บเสียโฉมแน่นอน
9. เพรียงทะเล (barnacle)
เพรียงทะเล ปัญหาเดียวกับหอยนางรม แต่มักจะเกาะติดอยู่กับโขดหินในระดับผิวน้ำ ปัญหามักเกิดจากการเดินเที่ยวตามโขดหินชายทะเล หากจะเดินเล่นตามโขดหินต้องใช้ความระมัดระวัง ถึงแม้ใส่รองเท้าจะป้องกันได้ แต่ว่าโขดหินมักจะลื่น หากเสียหลักลื่นล้มอาจจะล้มไปกระแทกกับโขดหินที่มีเพรียง หรือหอยนางรมเกาะก็จะทำให้ได้รับความบาดเจ็บ
10. งูทะเล (Hydrophiinae)
งูทะเล เวลาไปเที่ยวทะเลอาจจะเจองูทะเลอยู่สองประเภท
1. งูทะเลที่อยู่ตามแนวปะการัง มักมีลายปล้องขาว-ดำ งูเหล่านี้ไม่น่ากลัวเพราะงูพวกนี้จะกลัวคน เพียงแค่ได้เห็นคนก็ว่ายน้ำหนีไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวแต่ถ้ามันกัดก็ไม่ต้องกลัวเพราะเป็นงูที่ไม่มีพิษ หากโดนกัดก็เพียงแค่ฉีดยากันบาดทะยักเท่านั้นเอง งูทะเลที่มีพิษก็มีแต่จะอยู่ในเขตน้ำลึกซึ่งนักท่องเที่ยวไม่มีโอกาสจะเจอ ดังนั้นจึงสบายใจได้ สรุปว่างูทะเลในแนวปะการัง ไม่มีพิษภัยเพียงแค่ทำให้ตกใจกลัวเท่านั้นเอง
2. งูที่อยู่บนหัวคน งูประเภทมีมากกว่างูที่อยู่ตามแนวปะการัง เป็นงูที่ไม่มีพิษภัย เพียงแต่ทำให้เกิดความรำคาญเท่านั้นเอง แก้ไขง่ายๆ ด้วยการวางเฉย เดี๋ยวงูมันก็ไปเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น